ประวัติ โรงเรียนพุทธิโศภน
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2441 หรือ 111 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเดชพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชองการโปรดเกล้า ให้ประกาศ การจัดการศึกษาเล่าเรียน ตามหัวเมือง ในมณฑลต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร เริ่มแรกทางการขอให้สถาบันสงฆ์โดยผ่านทางพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส (สมเดชพระสมณะเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส) ทรงรับผิดชอบดำเนินการจัดการศึกษา พระเจ้าน้องยาเธอฯ จึงทรงพระบัญชาให้คณะสงฆ์รับผิดชอบจัดการศึกษาในหัวเมือง โดยให้ใช้ศาสนสถาน เช่น วิหาร ศาลา ฯลฯ เป็นสถานที่เรียน พร้อมทั้งส่งพระภิกษุผู้ที่มีความรู้ ความสามารถจากกรุงเทพฯออกไปประสานงาน ดำเนินการและเปิดการเรียนการสอนในเบื้องต้น
สำหรับที่เชียงใหม่ พระครูสังฆบริคุต (พระมหาคำเปิง) ในภายหลังได้เลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ พระนพีสีพิศาลคุณ ชาวบ้านลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ที่ลงไปศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ขึ้นมาดำเนินการตามพระบัญชาเป็นรูปแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 พำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง ได้จัดการศึกษาปริยัติธรรมแผนใหม่ แบบกรุงเทพฯ และจัดการศึกษาภาษาไทย เป็นพระภิกษุรูปแรกที่ได้จัดตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทยขึ้นที่เชียงใหม่ ณ วัดเจดีย์หลวง ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนพระเจดีย์หลวง" เมื่อ พ.ศ.2442
นอกจากการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเจดีย์หลวงแล้ว พระนพีสีพิศาลคุณ ได้จัดตั้งโรงเรียนสอนหนังสือไทยขึ้นที่ วัดหอธรรม (วัดหอธรรมเป็น 1 ใน 4 วัดที่ตั้งอยู่ภายในวัดเจดีย์หลวง คือ วัดหอธรรม วัดพันเตา วัดแสนฝาง วัดสบขมิ้น ภายหลังรวมเป็นวัดเจดีย์หลวง คงเหลือแต่เพียงวัดพันเตาเพียงแห่งเดียว) เพื่อเป็นรากฐานในการจัดการศึกษา พระปริยัติธรรมตามหลักสูตรของมหามกุฎราชวิทยาลัยแก่บรรพชิต พร้อมทั้งได้เปิดรับนักเรียนทั่วไปเข้าศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยในหลักสูตรวิชาสามัญด้วย ในระยะแรกโรงเรียนวัดหอธรรมได้เริ่มสอนที่ศาลาสงฆ์ของวัดหอธรรม แล้วจึงย้ายไปเปิดที่ ที่ธรณีสงฆ์ด้านตะวันตกของวัดหอธรรม การก่อสร้างอาคารหลังใหม่ที่ด้านเหนือของพระวิหารหลวงวัดเจดีย์หลวง เป็นอาคารชั้นเดียวเป็นห้องโถงใหญ่ ฝาโปร่งเป็นซี่กรงรูปข้าวหลามตัด แบ่งออกเป็น 4 ชั้นชั้นเตรียม ชั้น ป.1-2-3 แต่ละชั้นไม่มีฝากั้นรวมกันอยู่ในห้องโถงนั้น แล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2468 พระครูพุทธิโศภน ( ปั๋น ) พระคณาจารย์ตรี เจ้าอาวาสวัดหอธรรมจึงได้นำความกราบทูลพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าสกลมหาสัฆปรินายก เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายธรรมยุต ขอประทานนามโรงเรียนประถมศึกษาแห่งใหม่นั้น
ต่อมาวันที่7 สิงหาคมพ.ศ. 2468 สมเด็จพระสังฆราช จึงได้โปรดประทานนามโรงเรียนนั้นว่า "โรงเรียนพุทธิโศภน" ตามนามของเจ้าอาวาสวัดหอธรรมซึ่งเป็นผู้อุปการะโรงเรียน และต่อมาวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2468 ทางโรงเรียนก็ได้ย้ายนักเรียนที่เปิดสอนชั่วคราวจากที่อยู่โรงเรียนประชาบาลตำบลพระสิงห์มาเปิดสอนที่โรงเรียนพุทธิโศภน และคงเปิดสอนต่อเนื่องมาจนถึงปีพ.ศ.2479 จึงได้ย้ายออกไปอยู่ที่อาคารที่สร้างขึ้นใหม่ในพื้นที่วัดเชษฐาซึ่งเป็นวัดร้างและเป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนพุทธิโศภนสืบมาตราบจนทุกวันนี้....
จากความริเริ่มดำเนินการ การศึกษา เพื่อบ้านเมืองของพระมาหาคำเปิงนี้เอง แม้เมื่อหมดอายุขัยของท่านแล้ว แต่จากเจตนารมณ์อันดีงามของท่าน จึงได้ดำเนินการสานต่อโครงการสืบต่อมาคือพระครูพุทธิโศภน (บุญปั๋น) ได้มีหนังสือไปกราบทูลกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเดชพระสังฆราช วัดราชบพิธ กทมฯ เพื่อทรงประทานนามโรงเรียนประถมศึกษา ที่ตั้งอยู่ภายในวัดเจดีย์หลวง พระองค์ทรงประทานนามว่า โรงเรียนวัดหอธรรม แบะตั้งอยู่ในเขตสังฆาวาสหอธรรม ต่อมาเป็นคณะหอธรรมวัดเจดีย์หลวง พระองค์ทรงประทานนามใหม่ว่า "โรงเรียนพุทธิโศภน" เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2468 ครั้งแรกโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาศิลาขณะนี้ พระครูพุทธิโศภน (ปั๋น) ได้ย้ายมาสร้างใหม่ด้านทิศเหนือพระพระวิหาร บริเวณอาคารเอนกประสงค์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2468 ก่อนที่จะย้ายไปสร้างใหม่ ในพื้นที่ของวัดเชษฐา (วัดร้าง) ในที่ตั้งปัจจุบันเมื่อ พ.ศ.2479
พระครูพุทธิโศภน เจ้าอาวาสวัดหอธรรมหรือนามเดิม คือ พระปลัดปั๋น หรือบุญปั๋น เคยเป็นเจ้าคณะแขวง (ตำบล) เป็นพระอาจารย์ตรี ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านได้หลบภัยสงครามไปพำนักอยู่ที่บ้านนางเหลียว (ปัจจุบัน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราบ จังหวัดเชียงใหม่) บ้านเกิดของท่าน เมื่อ พ.ศ.2487 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง ท่านได้ มรณภาพในปีเดียวกัน ทางคณะสงฆ์วัดเจดีย์หลวงและญาติ ๆ ของท่าน จึงได้ทำการฌาปนศพของท่าน ณ เมรุชั่วคราวกลางทุ่งนา หน้าวัดนางเหลียว อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่.
เรียบเรียงจากหนังสือสมโภชพระวิหารหลวง วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร หน้า 52,101,135,148 พ.ศ.2552
|